เครื่องตัดเหล็กเส้นไฮดรอลิค
เครื่องตัดเหล็กเส้นไฮดรอลิค (Manual Hydraulic Rebar Cutter): ตัดเหล็กข้ออ้อยง่ายๆ ในไม่กี่วินาที
ในทุกโครงการก่อสร้าง การตัดเหล็กเส้นหรือเหล็กข้ออ้อยเป็นงานที่ต้องทำอยู่เสมอและเป็นงานที่หนักหนาสาหัส การใช้ลูกหมูหรือใบตัดไฟเบอร์ก่อให้เกิดประกายไฟ, เสียงดัง และไม่ปลอดภัย ในขณะที่การใช้คีมตัดเหล็กขนาดใหญ่ก็ต้องใช้แรงมหาศาล Toolshop88 ขอนำเสนอทางออกที่ดีที่สุดด้วย เครื่องตัดเหล็กเส้นไฮดรอลิค แบบมือโยก อุปกรณ์พกพาที่ทรงพลัง ที่จะเปลี่ยนงานตัดเหล็กที่แสนเหนื่อยล้าให้กลายเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัย
ทำไมไซต์งานก่อสร้างสมัยใหม่จึงเลือกใช้เครื่องตัดเหล็กไฮดรอลิค?
คีมตัดเหล็กข้ออ้อย ระบบไฮดรอลิคได้เข้ามาเป็นเครื่องมือมาตรฐานในไซต์งานก่อสร้างยุคใหม่ ด้วยเหตุผลที่เหนือกว่าวิธีดั้งเดิมอย่างชัดเจน:
- ทุ่นแรงมหาศาล: ด้วยพลังของระบบไฮดรอลิค เพียงโยกด้ามจับไม่กี่ครั้งก็สามารถสร้างแรงตัดมหาศาล ตัดเหล็กเส้นขนาด 16 มม., 20 มม. หรือแม้แต่ 25 มม. ได้อย่างง่ายดาย
- ปลอดภัยสูงสุด ไร้ประกายไฟ: การทำงานเป็นการใช้แรงเฉือน ไม่มีการเสียดสี จึงไม่เกิดประกายไฟ ทำให้สามารถทำงานใกล้กับวัสดุหรือในพื้นที่ที่ไม่ต้องการประกายไฟได้อย่างปลอดภัย
- พกพาสะดวก ทำงานได้ทุกที่: ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า ทำให้สามารถนำไปใช้งานได้ทุกที่ในไซต์งานก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นบนอาคารสูงหรือในพื้นที่ห่างไกล
- ทำงานเงียบและสะอาด: ลดมลภาวะทางเสียงในที่ทำงาน และไม่มีฝุ่นผงจากการตัดฟุ้งกระจายเหมือนการใช้ลูกหมู
- รอยตัดเรียบคม: ให้หน้าตัดที่เรียบ ไม่เสียรูปทรง สามารถนำเหล็กไปใช้งานต่อได้ทันที
ใครคือผู้ที่ได้ประโยชน์สูงสุดจาก ที่ตัดเหล็กเส้น ไฮดรอลิค?
เครื่องมือชนิดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อ:
- ผู้รับเหมาก่อสร้างและโฟร์แมน: เพื่อเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพในการทำงานของทีม ลดระยะเวลาโครงการ
- ช่างเสริมเหล็ก: ช่วยให้สามารถตัดเหล็กตามแบบได้ที่หน้างานโดยตรงอย่างรวดเร็วและแม่นยำ
- ทีมงานซ่อมบำรุงและรื้อถอน: สำหรับการตัดโครงสร้างเหล็กในพื้นที่จำกัดหรือไม่สามารถใช้เครื่องมือที่เกิดประกายไฟได้
- หน่วยกู้ภัย: ใช้ในการตัดเหล็กเส้นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ในซากอาคาร
เลือกระบบให้ถูกกับงาน: เครื่องตัดเหล็กแบบมือโยก vs. แบบไฟฟ้า
เครื่องตัดเหล็กเส้นไฮดรอลิคมี 2 ประเภทหลัก ซึ่งมีจุดเด่นและเหมาะกับหน้างานที่แตกต่างกัน การเลือกให้ถูกประเภทจะช่วยให้คุณทำงานได้เต็มประสิทธิภาพที่สุด:
1. เครื่องตัดแบบมือโยก (Manual Hydraulic Cutter) – รุ่น HHG-20
เป็นเครื่องมือแบบครบวงจรที่มีปั๊มไฮดรอลิคในตัว ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า ให้ความคล่องตัวสูงสุด
- จุดเด่น: น้ำหนักเบา, พกพาสะดวก, ทำงานได้ทุกที่แม้ไม่มีไฟฟ้า
- เหมาะสำหรับ: งานก่อสร้างหน้าไซต์งาน, งานตัดเหล็กที่ผูกไปแล้วในแบบ, งานในที่สูง, งานกู้ภัย และเป็นเครื่องมือสำรองฉุกเฉิน
2. เครื่องตัดแบบไฟฟ้า (Electric Hydraulic Cutter) – รุ่น HHG-25D
เป็นเครื่องมือที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการสร้างกำลังไฮดรอลิค ให้ความเร็วในการตัดที่สูงมากและไม่ต้องออกแรงโยก
- จุดเด่น: ตัดได้รวดเร็วที่สุด (ประมาณ 5 วินาที), กำลังตัดสูง, ผู้ใช้งานไม่เมื่อยล้า
- เหมาะสำหรับ: งานในโรงงาน, หน่วยผลิตชิ้นส่วนสำเร็จรูป (Prefabrication), ไซต์งานที่มีไฟฟ้าและต้องการตัดเหล็กจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง
ข้อควรรู้ทางเทคนิค: เกรดของเหล็กเส้น (SD30, SD40, SD50) 
เหล็กเส้นข้ออ้อยในประเทศไทยมีมาตรฐานความแข็ง (กำลังรับแรงดึง) ที่แตกต่างกัน เช่น SD30, SD40 และ SD50 ซึ่งมีความแข็งเพิ่มขึ้นตามตัวเลข
- ประสิทธิภาพการตัด: ความสามารถในการตัดสูงสุดของเครื่อง (เช่น 20 มม. หรือ 25 มม.) โดยทั่วไปจะอ้างอิงจากเหล็กเส้นมาตรฐาน SD40
- ข้อควรพิจารณา: หากคุณต้องทำงานกับเหล็กเส้นเกรด SD50 ซึ่งมีความแข็งสูงกว่าปกติ ความสามารถในการตัดขนาดสูงสุดของเครื่องอาจลดลงเล็กน้อย และอาจทำให้อายุการใช้งานของใบมีดสั้นลง การเลือกเครื่องที่มีกำลังเผื่อไว้จึงเป็นทางเลือกที่ดี
เคล็ดลับการบำรุงรักษาใบมีดเพื่ออายุการใช้งานสูงสุด
ใบมีดของเครื่องตัดเหล็กเส้นเป็นชิ้นส่วนที่รับภาระหนักที่สุด แต่สามารถยืดอายุการใช้งานได้ง่ายๆ:
- ใบมีด 4 คมตัด: ใบมีดของเราส่วนใหญ่ออกแบบมาให้มีคมตัด 4 ด้าน เมื่อใช้งานจนคมตัดด้านหนึ่งเริ่มทื่อ คุณสามารถคลายน็อตและหมุนใบมีดเพื่อใช้คมตัดด้านใหม่ได้ ทำให้ใบมีด 1 ชุดใช้งานได้ถึง 4 ครั้งก่อนจำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่
- หลีกเลี่ยงการตัดวัสดุอื่น: เครื่องมือนี้ออกแบบมาสำหรับเหล็กเส้นเท่านั้น ห้ามนำไปใช้ตัดเหล็กชนิดอื่นที่มีความแข็งสูง เช่น โซ่, สลักเกลียวชุบแข็ง หรือเหล็กสปริง เพราะจะทำให้ใบมีดบิ่นหรือแตกได้