กระบอกไฮดรอลิคเตี้ย
กระบอกไฮดรอลิคเตี้ย (Low Height Hydraulic Cylinder): แรงยกสูงในพื้นที่จำกัด
เคยไหมที่ต้องยกเครื่องจักรหนักหลายสิบตัน แต่มีช่องว่างให้สอดเครื่องมือเข้าไปเพียงไม่กี่เซนติเมตร? ปัญหานี้จะหมดไป ด้วย กระบอกไฮดรอลิคเตี้ย (Low Height Hydraulic Cylinder) หรือที่ช่างมืออาชีพนิยมเรียกว่า “แม่แรงเตี้ย” หรือ “Pancake Cylinder” ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหางานยกในพื้นที่ที่จำกัดที่สุดโดยเฉพาะ
คุณสมบัติเด่นที่แตกต่างของกระบอกไฮดรอลิคเตี้ย
Toolshop88 จำหน่ายกระบอกไฮดรอลิคเตี้ยที่ออกแบบมาเพื่องานหนักและต้องการความทนทานสูง โดยมีคุณสมบัติที่โดดเด่นดังนี้:
ความสูงน้อยเป็นพิเศษ: ด้วยความสูงเมื่อหดสุดที่ต่ำมาก ทำให้สามารถสอดเข้าใต้ช่องว่างแคบๆ ที่แม่แรงทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้
แรงยกมหาศาล: แม้จะมีขนาดเล็ก แต่สามารถให้แรงยกได้สูงหลายตัน เหมาะสำหรับงานยกของหนัก
โครงสร้างแข็งแรง: ผลิตจากเหล็กกล้าคุณภาพสูง ทนทานต่อการใช้งานหนักและแรงกดสูงได้อย่างดีเยี่ยม
ทำงานแบบ Single Acting: ส่วนใหญ่เป็นกระบอกสูบแบบทำงานทางเดียว (ยืดออกด้วยแรงดันไฮดรอลิค และหดกลับด้วยสปริงภายใน) ทำให้ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
การใช้งานหลัก: เมื่อไหร่ที่คุณต้องการ “แม่แรงสำหรับที่แคบ” ?
แม่แรงไฮดรอลิคเตี้ย คือเครื่องมือสำคัญสำหรับงานหลากหลายประเภทที่ต้องการความแม่นยำและปลอดภัยในพื้นที่จำกัด:
การติดตั้งและปรับระดับเครื่องจักร: ใช้สำหรับยกและปรับตำแหน่งเครื่องจักรที่มีน้ำหนักมากให้ได้ระดับที่ต้องการ
งานก่อสร้างและโยธา: เช่น การยกคานสะพาน, การปรับระดับโครงสร้างเหล็ก
งานซ่อมบำรุงหนัก: สำหรับการถอดหรือติดตั้งชิ้นส่วนขนาดใหญ่ เช่น ตลับลูกปืน (Bearing), เพลา หรือเกียร์
การยกวัตถุที่มีช่องว่างจากพื้นน้อยมาก: สามารถใช้เป็นตัวเริ่มต้นในการยกเพื่อให้มีช่องว่างพอที่จะสอดแม่แรงตัวใหญ่เข้าไปทำงานต่อได้
ทำไมต้องเลือกกระบอกไฮดรอลิคเตี้ยจาก Toolshop88?
เพราะเราเข้าใจว่าความปลอดภัยและประสิทธิภาพในงานยกเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เราจึงคัดสรรเฉพาะ กระบอกไฮดรอลิคเตี้ย ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และผ่านการทดสอบมาอย่างดี ทีมงานของเราพร้อมให้คำแนะนำทางเทคนิคเพื่อช่วยคุณเลือกขนาดและแรงยกที่เหมาะสมกับหน้างานของคุณ เพื่อให้คุณทำงานได้อย่างมั่นใจและราบรื่น
การทำงานของระบบ Spring Return ในกระบอก Single-Acting
กระบอกไฮดรอลิคเตี้ยส่วนใหญ่ทำงานในรูปแบบ Single-Acting Spring Return ซึ่งหมายถึง:
จังหวะยก (Extend): แรงดันน้ำมันไฮดรอลิคจากปั๊มจะถูกส่งเข้ามาดันลูกสูบให้ยืดออกเพื่อทำการยกวัตถุ
จังหวะลง (Retract): เมื่อปล่อยแรงดันน้ำมัน (โดยการหมุนวาล์วที่ปั๊ม) สปริงความแข็งแรงสูงที่อยู่ภายในกระบอกจะทำหน้าที่ดึงลูกสูบให้หดกลับเข้าที่เดิมโดยอัตโนมัติ
ระบบนี้ทำให้การใช้งานง่ายและรวดเร็ว เหมาะสำหรับงานยกและค้ำยันทั่วไปที่ไม่ต้องการแรงดึงในการหดกลับ
ข้อควรระวังสำคัญเพื่อความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งาน
พื้นผิวรองรับต้องแข็งแรง: ควรใช้งานบนพื้นผิวที่แข็งแรงและได้ระดับเสมอ เพื่อให้ฐานของกระบอกสามารถรับแรงได้อย่างเต็มที่และป้องกันการพลิกคว่ำ
Saddle คือหัวใจสำคัญ: ควรใช้ Saddle (แป้นรองหัวกระบอก) ที่เหมาะสมกับงานเสมอ เพื่อช่วยกระจายแรงกดและป้องกันไม่ให้หัวลูกสูบ (Plunger) สัมผัสกับวัตถุโดยตรง ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายได้
หลีกเลี่ยงการรับแรงเยื้องศูนย์ (Off-Center Loading): ควรวางโหลดให้อยู่กึ่งกลางของ Saddle มากที่สุด การวางโหลดเยื้องไปด้านใดด้านหนึ่งจะทำให้เกิดแรงด้านข้าง (Side Load) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ซีลเสียหายและกระบอกรั่วซึมก่อนเวลาอันควร
ห้ามยกเกินระยะ Stroke: การพยายามยกเกินระยะชักสูงสุดของกระบอก อาจทำให้ลูกสูบหลุดออกจากกระบอกและเกิดความเสียหายรุนแรงได้
Q: สามารถใช้แม่แรงเตี้ยหลายตัวพร้อมกันเพื่อยกของชิ้นใหญ่ได้หรือไม่
A: ทำได้และเป็นวิธีที่แนะนำสำหรับงานยกโครงสร้างขนาดใหญ่ แต่จำเป็นต้องใช้ปั๊มไฮดรอลิคที่มีวาล์วควบคุมหลายช่อง (Manifold) เพื่อให้สามารถควบคุมแรงดันและการไหลของน้ำมันไปยังแม่แรงแต่ละตัวได้อย่างสม่ำเสมอ ป้องกันไม่ให้โหลดเอียงหรือเกิดแรงกดที่ไม่เท่ากัน
Q: แม่แรงเตี้ยสามารถใช้ค้ำยันวัตถุเป็นเวลานานๆ ได้หรือไม่?
A: ไม่แนะนำครับ แม่แรงเตี้ยถูกออกแบบมาสำหรับงาน “ยก” เป็นหลัก หากต้องการค้ำยันวัตถุเป็นเวลานาน ควรใช้ควบคู่กับอุปกรณ์ล็อคทางกล เช่น ขาตั้งนิรภัย (Jack Stands) หรือบล็อกไม้เนื้อแข็ง (Crbbing) เพื่อความปลอดภัยสูงสุด